drabble: kris centric, pg-13
chip off the old block
‘เควิน อีกสองวันได้ยินว่าจะได้หยุด เดี๋ยวแม่จะไปเยี่ยมนะ’
“เดี๋ยวสิครับ... เฮ้ย วางไปแล้วเหรอ?” อี้ฟานโวยวายหลังจากถูกตัดสายทั้งๆที่ยังคุยกันไม่รู้ความ เขาจ้องโทรศัพท์แบบไม่อยากจะเชื่อ
“มีอะไรเหรอครับ?” เซฮุนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆหันมาถาม
“แม่พี่จะมาหาน่ะสิ ที่เรานัดกันว่าจะไปเดทคงต้องยกเลิกซะแล้วล่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณแม่พี่อุตส่าห์จะมาหาเชียวนะ ...พี่ต้องดีใจสิ” เซฮุนยิ้มอย่างตื่นเต้นดีใจแทน แต่พอเห็นสีหน้าของอี้ฟานมันกลับดูตรงกันข้าม
“เหอๆ แม่พี่ไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเขาเท่าไหร่น่ะ”
ความจริงอี้ฟานก็ดีใจอยู่หรอกนะที่แม่จะมาหาถึงที่ เขาเองก็คิดถึงบ้านอยู่ไม่น้อย แต่ด้วยความที่บ้านเขาเลี้ยงมาแบบให้ดูแลตัวเองตั้งแต่เล็กๆ มันจึงทำให้ต้องมีความรับผิดชอบและโตเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคนอื่น
เซฮุนมองหน้าอี้ฟานอย่างสงสัย “คุณแม่พี่อี้ฟานเป็นคนแบบไหนเหรอครับ?”
อี้ฟานหันมามองเซฮุน ...เรียกแม่ซะสุภาพเชียว แถมหน้าตาสงสัยใคร่รู้ของเซฮุนตอนนี้มันช่าง...
“...น่ารักจัง ♥”
ตั้งแต่นาทีแรกที่แม่ของเขาเหยียบแผ่นดินเกาหลี สถานที่แรกที่คุณนายอยากไปเยี่ยมชมคือแหล่งช็อปปิ้ง
โรงแรมที่คุณนายอู๋พักอยู่ในย่านเมียงดงพอดี ช่างพอเหมาะพอเจาะเสียจนอี้ฟานอดคิดไม่ได้ว่าแม่มาเยี่ยมเขาจริงๆหรือ
“เควิน ลูกสบายดีนะ” จู่ๆแม่ก็ถามขึ้นมาระหว่างยืนเลือกน้ำหอมกันอยู่ คุณนายฉีดน้ำหอมกลิ่นหอมหวานเบาบางใส่ข้อมือ แล้วแกล้งฉีดใส่แขนอี้ฟานที่ต่อต้านไม่ได้เพราะมันเต็มไปด้วยถุงจำนวนมาก
“สบายดีครับ แต่งานเยอะ เหนื่อยพอตัว”
“ไม่มีงานไหนที่ทำแล้วไม่เหนื่อยหรอก แม่รู้ว่าลูกทำได้...เอากลิ่นนี้สองขวดเลยก็แล้วกัน” เธอชี้นิ้วสั่งให้อี้ฟานจัดการเอาไปจ่ายเงินให้ด้วย
คุณนายอู๋เดินเข้าเดินออกร้านเครื่องสำอางค์อีกสามร้านโดยอ้างว่าต้องซื้อไปฝากเพื่อนๆ และลูกน้องที่ทำงาน กว่าจะช็อปเสร็จพาแม่ส่งกลับโรงแรมก็ฟ้ามืดแล้ว
“พรุ่งนี้แม่ต้องไปไต้หวันต่อ น่าเสียดายจริงๆ ที่มีเวลาอยู่กับลูกแค่วันเดียว” แม่เขาถอนหายใจระหว่างที่นั่งทานอาหารค่ำที่ห้องอาหารในโรงแรมด้วยกัน
“แล้วเมมเบอร์ในวงของลูกเป็นยังไงกันบ้าง จากที่แม่เห็นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ”
“ทุกคนเป็นคนดีมากครับแม่”
“ใช่... แต่ว่า มีเรื่องบางเรื่องที่อาจจะทำให้มีปัญหากันในอนาคตได้ถ้าลูกไม่ระวัง” อี้ฟานเงยหน้าขึ้นมองแม่ที่กำลังหยิบผ้าเช็ดปากขึ้นมาเช็ด
“เด็กๆแบบพวกลูกก็ไม่พ้นปัญหาหัวใจหรอกจะบอกให้ แม่เห็นน่ะอี้ฟาน ดูไม่ยากหรอก” แม่เขาเว้นจังหวะไปช่วงหนึ่ง สายตาของเธอเป็นห่วงลูกชายคนนี้อย่างจริงใจ
“แล้ว... แม่เห็นว่าควรจะทำยังไงดีล่ะครับ” อี้ฟานวางมีดส้อมลงอย่างอ่อนแรง รู้สึกปั่นป่วนในท้องอย่างบอกไม่ถูก
“นี่ไม่ต้องเครียดขนาดนั้นก็ได้ ...ไม่ร้ายแรงขนาดนั้นหรอกปล่อยให้เป็นไปตามที่ฟ้าลิขิต แต่จะพูดจะทำอะไรต้องระวัง คิดถึงความรู้สึกของหลายๆ คนด้วยเข้าใจมั้ย” อี้ฟานพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะถอนหายใจออกมา
คุณนายอู๋พลอยพยักหน้าไปด้วย หลังจากจัดการของหวานเสร็จเรียบร้อย เธอก็หยิบกล่องน้ำหอมที่เพิ่งซื้อวันนี้ออกมาจากกระเป๋า
“น้ำหอมสองขวดนี้ แม่ตั้งใจซื้อให้ลูกกับหนูเซฮุนล่ะ ใช้เหมือนๆ กันน่ารักดีนะว่ามั้ย” อี้ฟานสำลักน้ำที่เพิ่งยกขึ้นดื่มทันที
“มะ แม่ว่าไงนะครับ...”
แม่ของเขาโบกไม้โบกมืออย่างขำๆ “โถ คิดว่าแม่ไม่รู้หรือไง ‘ออร่า’ สีชมพูมันออกจะเปล่งปลั่งขนาดนี้”
“แล้วแม่รู้ได้ยังไงว่าเป็น...”
“ก็แม่เป็นแม่นี่นา สเป็คเราสองคนน่ะไม่ต่างกันหรอก” คุณนายอู๋หัวเราะคิกคักกับใบหน้าถอดสีของลูกชาย แกล้งใครก็ไม่สนุกเท่าแกล้งลูกจริงๆ นะ
อย่างที่บอกว่าแม่ของอู๋อี้ฟานนั้นไม่ธรรมดา และอี้ฟานเองก็ไม่เคยบอกใครเรื่องนี้มาก่อน ว่าแม่ของเขาเป็นคนมีสัมผัสที่หกล่ะ