drabble: joonmyun & kris/sehun, pg-13
sick sleeping beauty
วันนี้เซฮุนดูเงียบผิดปกติ เพราะปกติคือทุกครั้งที่เข้าบริษัทมาซ้อมเซฮุนมักจะอารมณ์ดีพูดไม่หยุด
“สงสัยคิดถึงพวกเอ็มล่ะมั้ง...” จุนมยอนตั้งข้อสังเกต แต่ลีดเดอร์คนเก่งกลับไม่ทันเห็นแก้มแดงเรื่อผิดปกติของน้องเล็ก ที่ไม่ได้มาจากการซ้อมเต้นจนเหนื่อยแต่อย่างใด
“วันนี้ซึงฮวานฮยองจะพาไปเลี้ยงไก่ทอดล่ะ!” ชานยอลวิ่งยิ้มปากฉีกเข้ามาในห้องซ้อมหลังจากหนีหายไปเข้าห้องน้ำอยู่นานสองนาน พร้อมกับซึงฮวานผู้จัดการสุดหล่อที่หน้าตาบอกบุญไม่รับ
“จริงเหรอครับ เย้!!!!!”
เด็กๆ ตะโกนดีใจกันสุดชีวิต น่าสงสารผู้จัดการสุดหล่อของเราจริงๆ เพราะการเลี้ยงอาหารเด็กวัยกำลังโตถึงหกคนหมายถึงหายนะของกระเป๋าเงินของเขาชัดๆ
“เดี๋ยวก่อนครับ... ผมคิดว่าเซฮุนคงไม่ไหว” จงอินส่งเสียงขึ้นมา เขายังนั่งพิงผนังขยับตัวไปไหนไม่ได้เพราะเซฮุนนอนพิงไหล่เขาอยู่
จุนมยอนรีบเข้าไปดูน้องทันที ตัวเซฮุนร้อนจนแก้มแดงปากแดงไปหมด และบนหน้าผากมีเหงื่อซึม
“พาเซฮุนกลับหอเถอะ”
คยองซูรับอาสาทำข้าวต้มร้อนๆ ให้คนป่วย ในขณะที่จงอินถึงกับนั่งหอบหายใจอยู่ข้างๆ เตียงเนื่องจากเป็นคนอุ้มเซฮุนขึ้นมา น้องเล็กของวงไม่มีแรงแม้แต่จะเปิดเปลือกตาขึ้นมาด้วยซ้ำ
“เซฮุนนา~ ลุกขึ้นมากินยาก่อนนะ” จุนมยอนเขย่าแขนเซฮุนเบาๆ แต่อีกฝ่ายไม่มีท่าทีตอบสนอง
“ทำยังไงดี เซฮุนไม่ยอมกินยาอีกแล้ว” ครั้งล่าสุดที่เซฮุนป่วยหลังจากถ่ายทำทีเซอร์ที่มีฉากต้องโดนสาดน้ำใส่ เซฮุนก็ดื้อไม่ยอมกินยาแบบนี้เหมือนกัน มีแค่คนเดียวที่ทำให้เซฮุนยอมกินยาได้แต่คนๆ นั้นไม่อยู่น่ะสิ
“เดี๋ยวผมดูแลเซฮุนให้เอง พี่จุนมยอนไปอาบน้ำก่อนเถอะ” คยองซูโผล่หน้าเข้ามาในห้องพร้อมกับถ้วยข้าวต้มหอมฉุย ที่หน้าตาดูน่ากินแต่ไม่รับประกันความอร่อย
“หืม...เหรอ เอางั้นก็ได้” จุนมยอนถอยออกมา เขายืนดูคยองซูพยายามปลุกเซฮุนขึ้นมากินข้าวต้ม แต่ก็เหมือนเดิม เซฮุนไม่ยอมลืมตาขึ้นมาแถมยังพลิกตัวหนีเสียด้วย
“ถ้าเซฮุนไม่ลุกขึ้นมากินข้าวต้ม พี่จะจับเซฮุนแก้ผ้าแล้วเช็ดตัวนะ” ...เฮ้ย คยองซู มันจะดีเหรอ
ดูท่าคยองซูจะไม่ได้พูดเล่น เพราะเขาจับเซฮุนพลิกตัวแล้วลงมือดึงเสื้อยืดสีขาวตัวโปรดของเซฮุนขึ้น
“คยองซูๆ ไม่ต้องถอดก็ได้มั้ง เดี๋ยวน้องจะหนาวเอานา...” คยองซูหันมาขมวดคิ้ว ก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วยแบบไม่ค่อยเต็มใจ คุณแม่ของวงเช็ดตัวให้เซฮุนอย่างตั้งอกตั้งใจ
จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของเซฮุนดังขึ้น จุนมยอนรีบคว้ามารับแทนก่อนที่คยองซูจะทันเห็นว่าใครโทรมา
“โทรมาได้จังหวะพอดีแฮะ ตอนนี้เซฮุนไม่สบายมากเลย”
เสียงปลายสายโวยวายดังมาทันที จุนมยอนยกโทรศัพท์ออกห่างหูก่อนจะพูดต่ออีกครั้ง “นายช่วยพูดให้เซฮุนกินยาทีสิ
คยองซูเช็ดตัวให้แล้วแต่ยังไม่ยอมกินยาเลย”
จุนมยอนจัดการไล่คยองซูที่ทำหน้างง กับจงอินที่แอบงีบอยู่บนเตียงของเขาออกจากห้องไป
“เซฮุนนา... อี้ฟานจะคุยด้วยน่ะ” ได้ผลแฮะ... พอได้ยินชื่อนี้เซฮุนก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา จุนมยอนเอาโทรศัพท์ไปวางไว้ใกล้ๆ หูน้องเพื่อให้คุยกันสะดวก
เสียงเซฮุนเบามากจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ จุนมยอนนึกสงสัยว่าปลายสายจะได้ยินรึเปล่า แต่แล้วจู่ๆ เซฮุนก็น้ำตาไหลโยนโทรศัพท์ออกไปข้างๆ แล้วเอาหน้าซุกหมอนเพื่อกลั้นสะอื้น
“เฮ้ย! ไอ้บ้านี่ แกพูดอะไรกับเซฮุน น้องร้องไห้ใหญ่เลย” จุนมยอนทำอะไรไม่ถูก จึงได้แต่เอื้อมมือไปลูบผมเซฮุนเพื่อปลอบให้สงบลง
‘คนป่วยก็จิตใจอ่อนไหวแบบนี้แหละ ...จุนมยอนช่วยป้อนยาเซฮุนทีสิ’
“แล้วจะป้อนยังไงล่ะ?”
‘ปกติฉันก็ป้อนด้วยปาก แต่กรณีของนายแค่เอายาใส่มือเซฮุนก็พอ ฉันคุยกับเขาแล้ว’
จุนมยอนถึงกับอ้าปากค้างกับประโยคแรก ...มันพูดออกมาได้หน้าตาเฉยเลยแฮะ แต่จุนมยอนก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ พยายามพูดปลอบให้เซฮุนเอาหน้าออกจากหมอนแล้วลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะเอายาลดไข้สองเม็ดยัดใส่มือน้องพร้อมน้ำหนึ่งแก้ว จากนั้นก็นั่งลุ้น... เซฮุนเอายาใส่ปากแบบไม่เต็มใจแล้วกลั้นใจกลืนก่อนดื่มน้ำตาม น้ำตาเม็ดโตกลิ้งหล่นลงมาอีกระลอก
“โอ๋ๆ เซฮุนนี่คนเก่งไม่ร้องไห้นะ” จุนมยอนดึงน้องมากอดปลอบแล้วค่อยๆ ประคองเซฮุนให้นอนลง เขาลูบผมน้องเล็กอย่างเบามือจนเซฮุนค่อยๆ หลับไป
“น้องยอมกินยาแล้วอี้ฟาน โอยยย...ฉันอยากจะร้องไห้ตาม” จุนมยอนโทรกลับไปรายงานลีดเดอร์ของอีกฝั่งหลังจากเซฮุนหลับสนิท
‘นายดูแลเซฮุนยังไงปล่อยให้ไข้ขึ้นได้ห๊ะ!’ ว่าแล้วเชียวว่าเจ้านี่ต้องต่อว่าเขาแน่ๆ
“...ใจเย็นๆ นะท่านคริส คือฉันก็ไม่ได้อยากให้เซฮุนไม่สบายนะเฟ้ย” จุนมยอนรีบพูด
“อ้อ...ลืมบอกไป ตะกี้ฉันใช้วิธีเดียวกับนายป้อนยาน้องล่ะ ฮ่าๆๆ” จุนมยอนรีบวางสายก่อนที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวแล้วตะโกนด่ากลับมา
จุนมยอนถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันไปมองเซฮุนที่นอนกอดตุ๊กตาหน้าตาประหลาดเสียแน่น ตุ๊กตาอะไรสักอย่างที่จุนมยอนระบุประเภทไม่ได้รู้แต่ว่าคริสเป็นคนให้เซฮุนมา
...ว่าแต่คนให้ป่านนี้จะรู้ตัวรึยังนะ ว่าเพิ่งหลุดความลับอะไรออกมาให้จุนมยอนรู้น่ะ