drabble: all exo, pg-13
an unforgettable senseless horror event
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในคืนวันฮัลโลวีนปีก่อนหน้าที่เอ็กโซจะเดบิวท์
หลังจากฝึกซ้อมกันอย่างหนักหน่วงติดกันหลายชั่วโมง เพราะความเหนื่อย ความเครียด ความตื่นเต้น หรืออะไรก็ไม่อาจทราบได้ ปาร์คชานยอลก็กระโดดลุกขึ้นมากลางห้องซ้อมแล้วประกาศว่า “ปาร์ตี้กันเถอะพวกเรา!!!”
เมมเบอร์คนอื่นดูจะเห็นด้วยในขณะที่คนที่ถูกวางตัวเป็นลีดเดอร์อย่างจุนมยอนและอู๋อี้ฟานมองหน้ากันอย่างชั่งใจ
“เอาก็ได้วะ ว่าแต่ปาร์ตี้เนื่องในโอกาสอะไรล่ะ?”
“พรุ่งนี้วันฮัลโลวีนไงพี่ เรามาแต่งแฟนซีชุดผีเล่นกันเถอะ”
“ธรรมดาไป ฉันว่าเรามาทดสอบความกล้ากันดีกว่า”
ทุกคนเงียบไปหลังจากแพคฮยอนพูดจบ คยองซูทำตาโตอย่างงงงวยเพราะไม่เข้าใจว่าทดสอบความกล้าคืออะไร
“...ไม่เก็ตเหรอ? แบบว่าแบบในการ์ตูนญี่ปุ่นไง หรือเอาง่ายๆ แบบว่าล่าท้าผีอ่ะ”
“อ๋ออออออออ!!!” ทุกคนทำเสียงเข้าใจกันอย่างพร้อมเพรียง มีเพียงจุนมยอนที่ไม่ได้พูดอะไรกับเค้าสักคำ ยืนหน้าซีดมือสั่นอยู่แต่ไม่มีใครรู้
“เดี๋ยวเรามาจับฉลากกันดีกว่าว่าใครจะได้เล่นเป็นผี ใครจะคู่กับใครบ้าง” แพคฮยอนกับชานยอลเป็นตัวตั้งตัวตีทำฉลากอย่างรวดเร็ว ทีเรื่องแบบนี้ล่ะถนัดกันนัก
ผลการจับฉลากสรุปว่ามีคนต้องแต่งเป็นผีสี่คน อันได้แก่ชานยอล แพคฮยอน จงแด และอี้ชิง
ส่วนคนที่ต้องล่าท้าผีทั้งหมดสี่คู่นั่นคือ จงอินกับจุนมยอน จื่อเทากับมินซอก ลู่หานกับคยองซู ...และคริสกับเซฮุน
อี้ฟานหัวเราะกับตัวเองเงียบๆคนเดียว อย่าคิดว่าเขาโชคดีขนาดนั้นเลย ไม่หรอกน่า... อันที่จริงเขาใช้ลูกเล่นตุกติกนิดหน่อยจึงได้คู่กับเซฮุนต่างหาก
ปาร์ตี้(?)ที่ว่าเริ่มขึ้นในคืนวันต่อมา
เส้นทางล่าท้าผี เอ๊ย... ทดสอบความกล้านั้นก็ไม่ใกล้ไม่ไกล เป็นสวนสาธารณะหลังหอพักของพวกเขานี่เอง แต่สวนนี้มันน่ากลัวพิลึกเมื่อตะวันลับขอบฟ้า บรรยากาศหนาวเหน็บวังเวง ได้ยินแต่เสียงใบไม้ปลิวกระทบกันเมื่อลมพัด เสียงรองเท้าของผู้ทดสอบความกล้าคู่แรกเดินย่ำเศษใบไม้ไปในความมืด จุนมยอนกอดแขนจงอินแน่น ในขณะที่จงอินเดินถือไฟฉายนำไปอย่างเบื่อๆ รีบเดินให้เสร็จๆ ไปจะได้กลับไปนอน
จุนมยอนพยายามเดินหน้าตรงหลุบตาลงต่ำเพื่อไม่ให้เห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น แต่จงอินที่เดินข้างๆ กลับสะกิดเขาให้มองไปยังพุ่มไม้แถมเอาไฟฉายส่องอีกต่างหาก
“แว๊กกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!”
“เสียงพี่จุนมยอนนี่นา”
“สงสัยเจอผีเข้าให้แล้ว” คยองซูพูดเสียงสั่นๆ คู่ของมินซอกกับจื่อเทาเดินไปแล้ว ถึงเวลาที่คู่ของเขากับลู่หานจะตามออกไปเสียที...
“ผีเหรอ มาเลยๆ ถ้ามาหลอกจะเตะให้ม้ามแตก” ลู่หานอย่างโหด
ทันทีที่คู่ที่สามเดินเข้าไป เสียงตะโกนโหวกเหวกเป็นภาษาจีนของจื่อเทาก็ลอยมาทันที เซฮุนเงี่ยหูฟังแต่ไม่เข้าใจว่าจื่อเทาโวยวายว่าอะไร
“จื่อเทาบอกว่ามีผีหัวขาดด้วย...” เซฮุนสะดุ้งเมื่อเสียงเย็นๆของอี้ฟานกระซิบข้างหู มือเรียวกำไฟฉายกระบอกใหญ่แน่น
“แปลว่าพี่ชานยอลแต่งเหมือนมากเลยสินะ”
“พี่ก็ไม่รู้ว่าใครแต่งเป็นอะไรบ้าง แต่อาจจะมีของจริงโผล่มาร่วมด้วยก็ได้นะ” เซฮุนรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที อี้ฟานหัวเราะหึหึในลำคอก่อนจะเดินนำหน้าเซฮุนเข้าไปในสวนสาธารณะอันมืดมิด
“คนอื่นๆหายไปไหนกันหมดนะ...”
“ไม่รู้สิ แต่ว่ามันเงียบน่าดูเลย”
อี้ฟานเดินโอบไหล่เซฮุนเข้ามาข้างในสวนลึกขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองเดินไปตามเส้นทางที่มีแสงเทียนอย่างที่ตกลงกันไว้ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะแสงเทียนมันหายไปเมื่อถึงทางแยกหนึ่ง
“เอายังไงดีล่ะ”
“พี่ว่าไปทางซ้ายนะ”
“แต่ผมว่าทางขวา”
“เชื่อพี่สิเซฮุน” เซฮุนทำหน้ายู่ไม่พอใจทันที แต่เขาก็ขัดใจคนชอบบงการไม่ได้ทั้งสองคนเดินเลี้ยวไปทางซ้ายท่ามกลางความกังวลใจของเซฮุน จะเชื่อพี่อี้ฟานได้จริงเหรอ?
“คริสกับเซฮุนล่ะ?” แพคฮยอนที่ใส่วิกผมยาวทาหน้าขาววอก (เขาบอกว่าแต่งเป็นผีซาดาโกะ) ถามหลังจากนับจำนวนสมาชิกล่าท้าผี แต่กลับหายตัวไปหนึ่งคู่
“สองคนนั้นเป็นคู่สุดท้ายนี่นา”
“ฉันเจอสองคนนั้นตรงแยกแรก โดน(ไอ้)คริสมันเตะด้วยอ่ะ” อี้ชิงยกมือขึ้นบอก มืออีกข้างถือหัวปลอมของชานยอลเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ จนมันหล่นกลิ้งไปอยู่แทบเท้าของจุนมยอนที่ตอนนี้ไม่มีสติหลงเหลืออยู่แล้ว
“แล้วตอนนี้หายไปไหนแล้วล่ะ?”
“หรือว่าหลงทางอยู่ข้างใน...”
ทั้งสิบคนมองหน้ากันโดยมิได้นัดหมาย ก่อนจะมองเข้าไปในสวนสาธารณะอันมืดมิดอีกครั้ง สายลมเย็นยะเยือกพัดมาจนน่าขนลุก
จะเกิดอะไรขึ้นกับคนข้างในบ้างนะ?