Closer - 09
marriage!au ; kris/sehun
ficlet series: pg13
สองวันก่อนงานแต่งงาน
ยิ่งใกล้วันงานเซฮุนยิ่งลนลานมากกว่าเดิมร้อยเท่า ทั้งที่พยายามปลอบใจตัวเองว่ามันเป็นแค่การแต่งงานแบบจำยอมแท้ๆ แต่เพราะคำพูดของชานยอลทำให้เขายิ่งกังวลใจจนต้องมานั่งหน้าบูดอยู่ในร้านกาแฟขาประจำ (ที่รับประกันว่าสะอาดที่สุดในย่านนี้)
จะโกหกใครๆก็โกหกได้ แต่ต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้ามันเป็นไปไม่ได้หรอก
"พี่ชานยอลไม่น่าพูดเลย ยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่"
เอาหลอดคนสมู้ทตี้ช็อคโก้แรงๆให้หายหงุดหงิดจนมันกระเด็นออกมานอกแก้ว
"โอ๊ย แย่จริง"
"บ่นอะไรอยู่ได้คนเดียว"
ชานยอลที่เซฮุนนัดไว้โผล่มาจากข้างหลังพร้อมกับคยองซูและจงอิน
"ทำไมยังมาอยู่ตรงนี้ล่ะ ใกล้จะต้องสนามบินแล้วไม่ใช่เหรอ"
"ก็อยากกินช็อคโก้" เซฮุนทำหน้าหงอยจนชานยอลยื่นมือมาผลักหัว
"เป็นอะไร กังวล?"
"ก็นิดหน่อย"
"แบบนี้ไม่นิดหน่อยล่ะมั้ง" คยองซูเข้ามากอดเซฮุนจากข้างหลัง พยายามปลอบใจเพื่อนสนิทด้วยความอบอุ่นจากวงแขนเล็กๆ โดยมีจงอินทำเสียงหมั่นไส้อยู่ข้างๆ
คริสมีงานจนถึงบ่ายสาม พวกเขาจึงตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินไปเชจูรอบห้าโมงเย็น โดยเซฮุนเป็นคนเก็บกระเป๋าให้ว่าที่เจ้าบ่าวที่ตื่นสายจนไม่มีเวลาทำอะไรแม้แต่หวีผม ส่วนพ่อแม่ ญาติๆ และเพื่อนสนิทของคริสจะตามมาถึงในวันพรุ่งนี้
"คิดมากเรื่องที่คุยกันเมื่อคืนล่ะสิ โธ่เด็กคนนี้นี่" ชานยอลทำท่าจะมาผลักหัวอีกรอบแต่เซฮุนหลบทัน
"อย่าคิดมากน่า พระเจ้าต้องเข้าใจเราแน่ๆว่ามันจำเป็น"
"จริงเหรอ"
"ใช่ แล้วบางที มันอาจจะไม่ใช่การโกหกก็ได้ แต่งๆกันไปเดี๋ยวพวกนายก็รักกันเองแหละ เผลอๆจะมีหลานให้คุณลุงคุณป้าอุ้มเล่นด้วยซ้ำ"
"บ้าเหรอพี่ชานยอล เซฮุนจะท้องได้ยังไง" เป็นคยองซูที่หันมาว่าและทำตาโต
"หมายถึงรับเลี้ยงเด็กต่างหากเล่า"
"ผมเข้าใจเหมือนพี่ชานยอลเลยครับ" จงอินพูดยิ้มๆ ...เอาสิ ชานยอลทำอะไรก็ถูกไปหมดในสายตาของจงอินนั่นแหละ
"ขอบคุณนะทุกคน สบายใจขึ้นเยอะเลย"
เซฮุนดูดสมู้ทตี้ช็อคโก้จนหมดแก้ว รสชาติหวานกลมกล่อมและเย็นจี๊ดขึ้นสมองทำให้รู้สึกดีขึ้นมาก
"จริงๆแล้วพี่ยังเตรียมของปลอบใจมาให้เราอีกอย่างนะ นี่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ จะวางขายเดือนหน้าแล้ว"
ชานยอลหยิบหลอดครีมสีหวานพาสเทลขึ้นมาสามอัน
"แอลกอฮอล์ล้างมือแบบผสมมอยส์เจอไรเซอร์ คล้ายๆเป็นโลชั่นแหละ ล้างแล้วมือจะได้เหี่ยวน้อยลง"
"โอ้ดีจัง หอมด้วย ขอบคุณนะครับ"
"พี่ให้คยองซูกับจงอินเอาไปลองใช้ด้วยนะ"
คยองซูรีบตะปบหลอดสีม่วงหวานกลิ่นลาเวนเดอร์ก่อนใคร จงอินจึงต้องหยิบหลอดสีเขียวกลิ่นชาเขียวที่เหลือ
"ขอบคุณนะครับ" จงอินเอ่ยเสียงเบา หน้าตาดูมีความสุขแบบที่เซฮุนไม่เคยเห็นมาก่อน
"ขอบคุณครับพี่ ผมเอาไปให้ซูจองต่อได้มั้ย" คยองซูหยิบขึ้นมาดมท่าทางถูกใจ จองซูจองคือนักศึกษาแพทย์รุ่นเดียวกันกับคยองซูที่เขาเพียรพยายามจีบมาตั้งแต่ปีหนึ่ง
"นายยังไม่เลิกจีบซูจองอีกเหรอ" เซฮุนหันมาถาม
"ไม่มีทาง อีกนิดเดียวซูจองก็จะใจอ่อนแล้ว"
"เห็นพูดแบบนี้มาสี่ปีแล้วเหมือนกัน"
คยองซูทำหน้าดุใส่จนเซฮุนต้องถอย หันไปมองคู่ปรับที่ปกติจะต้องแซวไม่หยุดแต่วันนี้ดูเงียบเรียบร้อยผิดปกติ เพราะมีชานยอลมานั่งอยู่ตรงหน้านั่นเอง
"โธ่เอ๊ยน้องนีนี่ ตาจะเป็นรูปหัวใจอยู่แล้ว"
"เอาล่ะ เติมพลังเสร็จแล้ว เราไปสนามบินกันเถอะ"
คริสมองดูนาฬิกาข้อมือเป็นรอบที่สิบห้า ขณะนี้เวลาบ่ายสามโมงสี่สิบ
"ยังไม่เสร็จอีกเหรอ"
เขาปลดกระดุมสองเม็ดบนออกด้วยความหงุดหงิด แอร์ในสตูดิโอที่ถ่ายโฆษณาก็เสียจนเหลือแค่เครื่องเดียว แถมฉากที่ใช้ยังมาลัมครืนจนพังพินาศ ทีมงานต่างก็ปาดเหงื่อด้วยความกลุ้มใจ
"อีกนิดเดียวจะซ่อมฉากเสร็จแล้วค่ะ กรุณารออีกหน่อยนะคะ" ทีมงานสาวก้มหัวขอโทษเขายกใหญ่ พลางร้องสั่งให้คนเอาพัดลมมาเพิ่ม
"ถ้าผมตกเครื่องขึ้นมาจะทำยังไง รู้มั๊ยผมจะแต่งงานวันมะรืนนี้แล้วนะ" เขาขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจ ไอ้เรื่องตกเครื่องน่ะไม่เท่าไหร่ ซื้อตั๋วใหม่ไฟลท์ต่อไปก็ได้แต่...
"ปล่อยให้เซฮุนไปก่อนไม่ได้หรอก"
"ว่ายังไงนะคะ"
"รีบๆซ่อมให้เสร็จสิ!"
ทุกคนแตกกระจายไปคนละทิศละทาง
คริสตอนโมโหขึ้นมาน่ากลัวมากทีเดียวล่ะ
เป็นมินซอกที่เข้ามากู้สถานการณ์ ฉากที่ต้องซ่อมใหม่ยังเหลืออีกมากทีเดียวไม่เหมือนกับที่ทางทีมงานบอกไว้ ถ้าขืนรอต่อไปคริสคงตกเครื่องแน่นอน
"ผมจัดวันถ่ายให้ใหม่เป็นพุธหน้าช่วงบ่าย โอเคนะครับ"
ทางทีมงานแทบจะคำนับจนหัวติดพื้นกันทุกคน แม้แต่ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์เองยังกล่าวขอโทษกับอุบัติเหตุฉากพังครั้งนี้
"มาถ่ายตอนหลังแต่งงานก็ดีครับ จะได้อารมณ์ดี ขืนถ่ายตอนนี้ไม่มีใครซื้อน้ำอัดลมของเราดื่มหรอก ฮ่าๆๆ"
ทุกคนหัวเราะผสมโรงกันแบบขอไปที แต่พอหันไปเห็นคริสที่ยังคงอารมณ์กรุ่นอยู่ก็เงียบกันหมด
"ไปกันได้รึยัง เซฮุนโทรมาถามแล้ว"
พูดจบก็เอ่ยลาทุกคนตามมารยาทเดินลิ่วออกไป
"คนจะแต่งงานก็แบบนี้ล่ะครับ เป็นโรคกลัวเมียระยะเริ่มต้น ฮ่าๆๆ" มินซอกพูดปิดท้ายก่อนจะหัวเราะเสียงดังแล้วเดินตามออกไปแบบสบายๆ
คริสมาถึงสนามบินแบบฉิวเฉียด เซฮุนถอนหายใจอย่างโล่งอกแต่แล้วก็ทำหน้ายุ่งเพราะคริสยังอยู่ในชุดที่ต้องถ่ายโฆษณาอยู่เลย
"เดี๋ยวค่อยเปลี่ยนบนเครื่องก็ได้ รถติดแถมยังออกมาสายอีก มาทันก็บุญแล้ว ...เฮ้ยๆๆ" เขาโดนเซฮุนฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคใส่ตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกแล้ว
"ก็ชุดกองถ่ายดูแล้วสกปรกจะตาย"
"แต่เขาก็ซักแล้วนะ เสื้อผ้าเขาจะด่างมั้ยเนี่ย"
"นี่สูตรอ่อนโยน ผ้าไม่เสียหรอก"
"อืม ยังไงก็ขอบคุณนะ"
"นี่อย่ามัวหวานกัน เขาให้ต่อคิวขึ้นเครื่องแล้ว" เสียงมินซอกตะโกนบอกมาจากแถวหน้าสุด ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วก็รีบเดินไปต่อแถวทันที
ผ่านไปเพียงหนึ่งชั่วโมงก็มาถึงสนามบินบนเกาะเชจู คริสนั้นหลับตลอดทาง ในขณะที่เซฮุนต้องคอยหันไปห้ามทัพเพื่อนสนิททั้งสองคนที่เอาแต่เถียงกันตลอดเวลา ส่วนชานยอลดูจะเข้ากันได้ดีกับมินซอกที่สนใจเรื่องวิตามินบำรุงเอามากๆ
"เดี๋ยวจะมีรถของโรงแรมมารับไปที่ท่าเรือ แล้วก็นั่งเรือต่อไปเกาะพยอลจูอีกที แล้วก็จะมีรถมารับที่ท่าเรือของเกาะไปที่โรงแรมอีกต่อนึง โอเคนะ"
ทุกคนตอบรับด้วยเสียงยานคาง คริสยังไม่ค่อยตื่นดี ส่วนคนอื่นๆแค่ฟังวิธีเดินทางก็เหนื่อยแล้ว ไม่แมนเอาซะเลยแต่ละคน
"นั่นไง รถของโรงแรมเอ็กโซซีไซด์"
ทุกคนลากกระเป๋าตามเซฮุนไปเหมือนลูกไก่ คนขับรถและพนักงานของโรงแรมออกมาโค้งต้อนรับพวกเขาอย่างมีมารยาท
"คุณโอเซฮุน คุณอู๋อี้ฝาน และเพื่อนๆใช่ไหมครับ สวัสดีครับ เดินทางเหนื่อยไหมครับ" พนักงานร่างเล็กในชุดเครื่องแบบของโรงแรมเงยหน้าขึ้นมายิ้มแป้นแล้นใส่ แต่แล้วก็ต้องทำหน้าตกใจ
"อ้าวคุณเซฮุนกับคุณคริสข้างห้องนี่นา ถึงว่าสิชื่อคุ้นๆ"
"นั่นสิครับ ชื่อคุณแบคฮยอนก็คุ้นมากเหมือนกัน"
"บังเอิญจริงๆ ถือว่าเป็นโชคดีนะครับเนี่ย อ๊ะ เชิญทุกท่านขึ้นรถได้เลยครับ"
แบคฮยอนและคนขับรถช่วยกันยกกระเป๋าขึ้นด้านหลังรถตู้ ใช้เวลาเดินทางราวยี่สิบนาทีถึงท่าเรือ โดยมีแบคฮยอนที่คอยเล่าเรื่องแหล่งท่องเที่ยวของเกาะพยอลจูให้ฟังตลอดทาง
แสงอาทิตย์ค่อยๆจางหายจนลับขอบฟ้าไป พอมาถึงท่าเรือก็มืดสนิทแล้ว
ทุกคนค่อยๆปีนลงเรือสปีดโบ้ทโดยมีพนักงานช่วยยกกระเป๋าลงมาวางบนเรือให้ เซฮุนลงมาเป็นคนสุดท้าย สีหน้าในความมืดดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
"เป็นอะไรไป ไม่ชอบเหรอ"
เซฮุนส่ายหน้าจนผมปลิว เขาจับมือที่ยื่นมาให้ของคริสแล้วนั่งลงข้างๆ
"ไม่ได้ไม่ชอบเรือหรอกนะ แต่ไม่ค่อยชอบทะเลตอนมืดๆน่ะ"
คริสพยักหน้าเข้าใจ เรือเริ่มแล่นไปข้างหน้าด้วยความเร็วจนคนอื่นๆร้องขึ้นมาอย่างถูกอกถูกใจ
"ทะเลตอนมืดจริงๆแล้วสวยมากนะ ถึงจะมองไม่เห็นอะไรแต่ดูสิ"
คริสชี้ให้เซฮุนลุกขึ้นมาดู แต่เด็กขี้กลัวไม่ยอมท่าเดียว กว่าจะยอมได้ก็ต้องคอยจับมือเอาไว้ให้แน่น
"แสงดาวเวลามันสะท้อนกับน้ำทะเลมันสวยมากเลยว่าไหม"
"อืม สวยจริงๆด้วยเนอะ อ๊ะนั่น! พี่อี้ฝานดูข้างบนสิ ดาวเต็มไปหมดเลย" เซฮุนร้องเสียงตื่นเต้นจนคนอื่นๆลุกขึ้นมาดูบ้าง
"สวยมากจริงๆ สมเป็นสถานที่แต่งงานในฝันเลยเนอะ" จงอินพูดเหมือนอิจฉาแบบทีเล่นทีจริง ส่วนคนอื่นก็รับคำเห็นด้วย
"ใกล้จะถึงเกาะของเราแล้วล่ะครับ ข้างหน้านั่นไงตรงที่มีไฟประภาคาร" แบคฮยอนชี้มือให้มองตาม
ในมี่สุดก็มาถึงเกาะพยอลจูจนได้
TBC
หมายเหตุ เกาะพยอลจูเป็นเกาะที่สมมุติขึ้นมา ไม่มีจริงในโลกนะจ๊ะ