secret/whisper
*3
◆ multi-shot; pg-13
◆ jongin/sehun ft. kris
ความทรงจำวัยเด็กของเซฮุนก่อนจะเข้ามาอยู่ในบ้านเด็กกำพร้านั้นแทบไม่หลงเหลืออยู่ หมอบอกว่าเป็นเพราะอาการช็อคตอนเกิดอุบัติเหตุ แต่สิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ในความทรงจำคือรอยยิ้มอันอบอุ่นของพี่ชาย
พี่ชายใจดีจะคอยดูแลเซฮุนอยู่ข้างๆเสมอทุกครั้งที่ป่วย เขาชอบเวลาที่มือเย็นๆของพี่วางแปะอยู่บนหน้าผาก สัมผัสที่อ่อนโยนทำให้เซฮุนสบายตัวขึ้น
'ดีขึ้นรึยัง หายปวดหัวแล้วใช่มั้ยเซฮุนนา'
'อื้อ ถ้าไม่ได้มือพี่ เซฮุนต้องไม่หายแน่ๆเลย พี่ชายเก่งที่สุดในโลกเลย'
พี่ชายหัวเราะร่วน
'โตขึ้นพี่จะเป็นหมอ จะได้ดูแลเซฮุนตลอดเวลาเลย ดีมั้ย?'
เซฮุนไม่ได้ฝันถึงพี่ชายมานานแค่ไหนแล้วนะ
เขาลืมตาขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวและปวดที่ข้อเท้า ภาพแรกที่มองเห็นและกลิ่นหอมของผ้าห่มเตือนให้รู้ว่าเซฮุนไม่ได้อยู่ที่ห้องของตัวเอง เขาลุกขึ้นช้าๆ พับผ้าห่มจนเรียบร้อยแล้วค่อยๆเดินออกไปข้างนอก เมื่อคืนเกิดเรื่องวุ่นวายมากเกินไปจนเซฮุนคิดอะไรไม่ทัน ไม่นึกเลยว่าสุดท้ายจะมาจบอยู่ที่นี่
จงอินอยู่ในห้องครัว กำลังผัดอะไรสักอย่างที่มีกลิ่นหอมน่ากิน เขาฮัมเพลงไปด้วย ไม่มีท่าทีรู้ตัวว่าคนในห้องนอนตื่นแล้ว เซฮุนเดินตัดผ่านห้องนั่งเล่นแล้วหยุดยืนอยู่กลางห้อง เพิ่งจะได้มีโอกาสมองสำรวจไปรอบๆ
ห้องของจงอินสะอาดพอสมควร แต่ก็ไม่ได้เป็นระเบียบมากนัก สิ่งของในห้องหลายอย่างบ่งบอกถึงความชอบส่วนตัวของเจ้าของ ฟุตบอล หนังสือการ์ตูน และการถ่ายรูป ผนังด้านหนึ่งของห้องเป็นชั้นวางของที่เต็มไปด้วยของสะสมของสโมสรฟุตบอลชื่อดังและหนังสือการ์ตูนมากมาย ชั้นบนสุดมีเลนส์หลากหลายแบบและกล้องถ่ายรูปฟิล์มรุ่นเก่าที่เซฮุนไม่เคยเห็นมาก่อน ในขณะที่ผนังห้องอีกฝั่งติดภาพถ่ายขาวดำไว้จนเต็ม
"อ้าว ตื่นแล้วเหรอ กำลังจะไปปลุกพอดี"
"อ๊ะ ขอโทษครับ"
จงอินเลิกคิ้ว "จะขอโทษเรื่องอะไรกัน ช่างเถอะ มานี่มา อาหารเช้าเสร็จแล้ว"
เซฮุนเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างว่าง่าย จงอินจัดทุกอย่างใส่จานไว้ให้แล้ว
"คุณหมอทำอาหารอร่อยมากเลยนะครับ"
"ถึงจะเป็นการชมตามมารยาทผมก็ดีใจนะ" จงอินพูดติดตลก
"ผมพูดจริงนะครับ แล้วก็ขอบคุณมากๆครับ" เซฮุนก้มหัวขอบคุณอย่างจริงใจ ซึ่งจงอินรู้ดีว่าเขาไม่ได้ขอบคุณเพียงแค่เรื่องอาหารเช้า
"ไม่เป็นไรหรอก ผมเต็มใจ"
"วันนี้ผมจะรีบหาห้องใหม่ให้เร็วที่สุดครับ"
เซฮุนไม่อยากรบกวนจงอินมากเกินไป ถึงอีกฝ่ายจะบอกว่าเต็มใจแต่นั่นยิ่งทำให้เขาอึดอัด
"ผมมีคนรู้จักเป็นเจ้าของหอพักอยู่ใกล้ๆโรงพยาบาล ถ้ายังไงผมจะถามให้นะ ดีมั้ย เซฮุนยังไม่ต้องรีบร้อนหรอก"
"อ่า แต่ว่า..."
"ถ้าเกิดรีบๆหาแล้วไปเจอหอไม่ดีอีกล่ะ"
เซฮุนเงียบไป
"อยู่ที่นี่ไปก่อน ถ้าได้แล้วค่อยย้ายออกไป เป็นไง"
"แต่ผมเกรงใจน่ะครับ"
"ไม่เป็นไรเลย ผมแทบไม่ได้อยู่ห้องด้วยซ้ำ ดีซะอีกมีคนมาช่วยอยู่เป็นเพื่อน"
จงอินให้เหตุผลที่มีน้ำหนักดีทีเดียว เขารู้ดีว่าเซฮุนไม่มีทางยอมอยู่ง่ายๆแน่
"ถ้าเกรงใจขนาดนั้นงั้นช่วยผมทำความสะอาดห้องก็ได้นะ เซฮุนก็เห็นว่าผมไม่ค่อยมีเวลาดูแล"
เซฮุนเม้มปาก ดูท่ากำลังคิดหนัก ในที่สุดก็ยอมตอบตกลง
จงอินต้องห้ามตัวเองไม่ได้ลุกขึ้นตะโกนด้วยความดีใจ
..........
เขาขับรถพาเซฮุนมาส่งใกล้ๆโรงพยาบาล เพราะเซฮุนยืนกรานว่าไม่อยากให้มีคนเห็นว่าเขามาด้วยกันกับจงอิน ถึงจงอินจะรู้สึกจุกนิดหน่อยแต่ก็ต้องตามใจ มองดูเซฮุนเดินช้าๆเพราะเจ็บขาเข้าประตูหน้าของโรงพยาบาลไป
หลังจากแน่ใจว่าเซฮุนอยู่ในห้องตรวจกับหมอแล้ว เขาถึงเดินกลับมาที่ห้องทำงานของตัวเอง เช้านี้จงอินมีผ่าตัดเล็กอยู่สองเคส เขาหยิบเอกสารที่เตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวานจากบนโต๊ะ ระหว่างทางที่เดินออกจากห้องก็สวนกับคริสพอดี
"ว่าไงคริส บังเอิญจัง"
"ฉันตั้งใจมาหานายเลยล่ะ ทำไมเมื่อวานถึงเบี้ยวนัด" คริสพูดเสียงเรียบนิ่ง ท่าทางไม่ได้โกรธอะไรแต่ดูเก็บความกังวลไว้ไม่มิด
"มีเรื่องด่วนนิดหน่อยน่ะ โทษที"
"เห็นนายบอกว่าเกี่ยวกับเซฮุน เขาไม่เป็นไรใช่มั้ย"
จงอินอึ้งไปเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าคริสผู้สุขุมเยือกเย็นจะหลุดอาการลุกลี้ลุกลนออกมา ...เพราะเรื่องของเซฮุน
"ไม่เป็นอะไรมาก ขาแพลงนิดหน่อย ตอนนี้ฝากหมอลีตรวจอยู่"
คริสเผลอถอนหายใจอย่างโล่งอก ระหว่างที่เดินไปห้องเตรียมผ่าตัดจงอินก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทั้งหมดให้คริสฟัง
"ตอนนี้เขาเลยอยู่บ้านนาย?"
"ใช่ ต้องชักแม่น้ำทั้งห้ามาหว่านล้อมกว่าจะยอมอยู่"
"นายนี่มันขี้ตื๊อจริงๆ"
คริสหัวเราะออกมา เขาบอกว่าถ้าสุดท้ายเซฮุนยังไม่ยอม จงอินคงต้องคุกเข่าอ้อนวอนคนอายุน้อยกว่าแน่ๆ
"ถ้าทำแล้วยอมอยู่ก็จะทำ ฉันไม่อยากให้เขาเจออันตรายอะไรอีก อยากให้เขาอยู่ในสายตาตลอดเวลา"
คริสถึงกับเงียบไปสักพัก
"นายเป็นคนดีมากนะจงอิน นายจริงใจกับเซฮุนจริงๆ ที่ผ่านมาฉันคิดว่านายสนใจเขาแค่เดี๋ยวเดียวไม่นานก็จะเบื่อ แต่ก็ไม่... เซฮุนโชคดีจริงๆ"
"อืม... ต้องพูดว่าขอบใจรึเปล่า ฟังดูเหมือนกำลังชมฉันอยู่เลย" จงอินหัวเราะกลบเกลื่อนบรรยากาศที่ดูแปลกๆในตอนนี้
"เห็นแบบนี้ก็วางใจแล้ว" คริสพึมพำเบาๆ
"เมื่อกี้ว่าไงนะ?"
"ช่างเถอะ นายไปทำงานต่อได้แล้ว ฉันไปล่ะ"
จงอินมองแผ่นหลังของเพื่อนสนิทที่ค่อยๆเดินห่างออกไป ความสงสัยของเขาเพิ่มขึ้นอีกเป็นทวีคูณ
คริสเป็นอะไรกับเซฮุนกันแน่...
..........
ไม่ชอบไปเลย น่าเบื่อ
นั่นเป็นสิ่งที่จงอินคิดเสมอเวลาพ่อบอกว่าต้องไปงานที่บ้านเด็กกำพร้า บ้านเซ็นต์แมรี่ได้รับการอุปถัมภ์จากมูลนิธิของโรงพยาบาลที่พ่อเป็นประธานบริหารอยู่
ใครๆต่างก็บอกว่าพ่อเป็นทั้งหมอและนักบริหารที่ประสบความสำเร็จ ความคาดหวังมักจะลามมาถึงลูกและยิ่งเป็นลูกชายคนเดียวแบบจงอินด้วยยิ่งถูกจับตามองเป็นพิเศษ เขาไม่ได้รังเกียจอาชีพหมอ แต่เพราะความเป็นวัยรุ่นที่มักจะต่อต้านทุกอย่างที่ขวางหน้า ทำให้ช่วงหนึ่งเขาทำตัวติสท์แตกเสเพลไปเรื่อยเปื่อย จนผลการเรียนลุ่มๆดอนๆ สร้างความปวดหัวให้พ่ออยู่ไม่น้อย แต่พ่อของเขากลับเข้าใจในตัวลูกชายดียิ่งกว่าเจ้าตัวเองเสียอีก
จงอินถูกพ่อสั่งให้มาตรวจสุขภาพของเด็กๆที่นี่ปีละสามครั้ง และยังต้องมากับคณะอาสาสมัครนักศึกษาแพทย์เพิ่มอีกรวมเป็นสี่ครั้ง งานที่นี่ไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่จะเป็นการตรวจสุขภาพทั่วไปและฉีดวัคซีน เด็กๆที่นี่ส่วนใหญ่เป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย จะมีบางรายเท่านั้นที่ซนและดื้อกว่าคนอื่นๆ
ในบรรดาเด็กมากมาย มีเด็กเพียงคนเดียวที่จงอินจำได้
โอเซฮุนเป็นเด็กตัวเล็ก ผิวขาวซีด กำลังจะเข้าเรียนมัธยมปลายเร็วๆนี้ เพราะเซฮุนเป็นเด็กรุ่นโตที่เรียบร้อยกว่าคนอื่น ซิสเตอร์จึงมอบหมายให้เขาดูแลเด็กเล็กเวลามาตรวจกับคุณหมอ จงอินถึงเจอหน้าเด็กคนนี้บ่อยยิ่งกว่าซิสเตอร์
เซฮุนเป็นพี่ที่ใจดี เขาเป็นที่รักของน้องตัวเล็กๆทุกคน เซฮุนจะนั่งรออยู่หน้าห้องตรวจคอยให้กำลังใจคนที่กำลังจะเข้าไปและคนที่กลับออกมา พอเจ้าตัวแสบพวกนี้โดนจงอินจับฉีดยา พวกเขามักจะร้องไห้จ้าวิ่งออกไปซบอกพี่เซฮุนให้ปลอบใจ เซฮุนมีวิธีที่ทำให้เด็กๆหยุดร้องไห้และกลับมาหัวเราะได้อีกครั้ง
รอยยิ้มของเซฮุนอ่อนโยนเสมอเวลาคุยกับเด็กๆ จงอินชอบมองภาพนี้โดยที่เขาไม่รู้ตัว
'เด็กคนนั้นน่ะ เขามีความฝันอยากเป็นหมอค่ะ แต่คงจะยากสักหน่อย' ซิสเตอร์ถอนหายใจ
'ทำไมล่ะครับ'
'พอจบมัธยมปลายแกก็ต้องออกจากที่นี่ไปแล้วล่ะค่ะ หลังจากนั้นคงต้องดูแลตัวเอง'
'แต่ทางมูลนิธิก็มีทุนการศึกษาให้นี่ครับ'
'มันเป็นทุนสำหรับหลักสูตรผู้ช่วยแพทย์ไม่ใช่หรือคะ'
'อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ได้เรียนหนังสือต่อนะครับ'
จงอินเฝ้ามองการเติบโตของเด็กเซฮุนทุกครั้งที่มีโอกาสมาที่บ้านเซ็นต์แมรี่ เซฮุนยังคงมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนเหมือนเดิม และมันยิ่งดูสวยมากขึ้นเรื่อยๆทุกครั้งที่จงอินได้เจอ
หลังวันแรกที่พบกันผ่านไปสามปี จงอินก็ได้ข่าวว่าเซฮุนสอบได้ทุนของมูลนิธิ
เขายิ้มกับตัวเอง พอนึกถึงรอยยิ้มของเด็กคนนั้นก็ยิ่งทำให้ยิ้มกว้างมากขึ้นไปอีก
'แล้วสักวันเราคงได้เจอกันอีกนะ'
............
จงอินเคาะโต๊ะทำงานเป็นจังหวะอย่างเหม่อลอย บ่ายโมงกว่าแล้วเซฮุนยังไม่กลับมาที่โต๊ะ
เขาหันไปมองโต๊ะที่แสนเป็นระเบียบของเซฮุนเป็นรอบที่ร้อย เพิ่งรู้สึกว่าในความเรียบร้อยของโต๊ะนั้นมันช่างขาดชีวิตชีวาเหลือเกิน
จงอินรู้จักเซฮุนมาห้าปีกว่า ถึงจะไม่ได้พบกันบ่อยแต่เขาจำเซฮุนได้แม่นยำโดยเฉพาะรอยยิ้มที่สดใส แต่เมื่อได้กลับมาพบกันอีกครั้งที่โรงพยาบาล ความสดใสนั้นหายไปจนหมด ในดวงตาของเด็กคนนั้นไม่มีแววไร้เดียงสาเหมือนเมื่อก่อน มันหม่นหมองจนไร้แววใดๆ
จงอินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงเวลาสองปีที่เซฮุนออกจากบ้านเซ็นต์แมรี่ เซฮุนเองก็จำจงอินไม่ได้เมื่อพบกัน นั่นไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่เพราะตอนนี้ใบหน้าของเขาไม่มีหนวดเคราเหมือนเมื่อก่อน
ทั้งๆที่จงอินรู้จักเซฮุนมานาน แต่พอมาคิดดู เขาแทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเซฮุนเลย
เสียงเปิดประตูเรียกสติของจงอินกลับคืนมา เซฮุนเดินเข้ามาด้วยใบหน้าซีดเซียว
"เซฮุน ทำไมเพิ่งกลับมา"
จงอินรีบเข้าไปประคองร่างที่ดูไร้เรียวแรงนั้นทันที แต่เซฮุนยิ้มน้อยๆและโบกมือปฏิเสธ
"ผมไม่ได้เป็นอะไรมากครับ ข้อเท้าก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่แค่มีไข้นิดหน่อย น้ำตาลในเลือดน้อยไปหน่อย คุณหมอเลยให้ผมนอนพักให้น้ำเกลือหนึ่งถุง"
"อะไรกัน ทำไมไม่บอกผมล่ะ"
"ผมไม่อยากรบกวนครับ แล้วก็ขอโทษด้วยที่เมื่อเช้าไม่ได้ไปช่วยเตรียมผ่าตัด"
"เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอกน่า"
จงอินทำเสียงดุแต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก เขาเป็นห่วงเซฮุนมากกว่า
เซฮุนนั่งลงบนเก้าอี้โดยมีจงอินยังยืนอยู่ข้างๆ เซฮุนก้มลงกดปุ่มเปิดคอมพิวเตอร์จากนั้นก็เปิดเอกสารที่ยังค้างอยู่บนโต๊ะดู พอเงยหน้าเห็นจงอินยังไม่ไปไหนก็ขมวดคิ้ว
"คุณหมอมีอะไรรึเปล่าครับ"
"เปล่า... แต่... บอกแล้วไงว่าให้เรียกว่าพี่"
เซฮุนหน้าร้อนขึ้นมาเสียเฉยๆ ได้แต่หวังว่าหน้าเขาจะไม่แดงจนเห็นชัดเจน
"ดะ ได้ยังไงกันล่ะครับ ที่นี่ที่ทำงานนะครับ"
"แต่ตอนนี้ก็มีแค่เราสองคนนี่"
"ไม่เอาหรอกครับ"
เซฮุนทำเป็นก้มหน้าลงอ่านเอกสาร เขาแอบซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ไม่ให้จงอินเห็น
"มีกลิ่นแปลกๆว่าไหมครับ..."
"อืม จะว่าไปก็ได้กลิ่นเหมือนกันนะ"
เป็นกลิ่นเหม็นแปลกๆที่ถ้าไม่สังเกตก็อาจไม่รู้สึก
"กลิ่นขยะหรือเปล่า... ไม่ใช่นี่นา"
เซฮุนก้มดูถังขยะใต้โต๊ะก็พบว่ามันว่างเปล่า เขาจึงลองเปิดลิ้นชักดู
เซฮุนส่งเสียงร้องแล้วถอยห่างออกมาจากตรงนั้น เขาผวาตกใจจนเกือบล้มจากเก้าอี้ ดีที่มีจงอินอยู่ข้างๆจึงรวบเอาร่างที่สั่นเทาเอาไว้ได้ทัน
"เป็นไปไม่ได้ จะมีหนูเข้ามาอยู่ได้ยังไง..."
ในลิ้นชักของเซฮุนมีซากหนูตัวใหญ่ที่ท้องถูกชำแหละออกจนเครื่องในทะลักออกมา
เซฮุนเบือนหน้าหนีภาพที่น่าขยะแขยงนั้น ซบหน้าเข้ากับไหล่ของจงอินที่พึมพำบอกเซฮุนว่าไม่เป็นไร เขาเผลอกำเสื้อของจงอินจนยับ น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
"พอสักที เรื่องแบบนี้... ทำไมถึงยังไม่จบอีก"
จงอินเรียกให้คนทำความสะอาดมาจัดการและตำหนิที่ปล่อยให้มีหนูอยู่ในโรงพยาบาล ทั้งที่ในใจเขารู้ดีว่ามันไม่ใช่ความผิดของคนทำความสะอาดหรอก
ซากหนูที่ถูกแหวกท้องไม่ได้ตายตามธรรมชาติ มีใครบางคนจงใจนำมาใส่ไว้ในลิ้นชักของเซฮุน
"ซากหนูนั่นถูกฉีดฟอร์มาลีนกันไม่ให้เน่า คงจะเก็บมาจากที่อื่นเพื่อเอามาข่มขู่โดยเฉพาะ"
คริสพูดเสียงนิ่ง สีหน้าเป็นกังวล
"ใครกันที่ทำเรื่องแบบนี้ได้"
"ฉันว่านายควรขอดูกล้องวงจรปิด"
จงอินพยักหน้า "ทำเรื่องไปขอแล้วล่ะ"
"เซฮุนมีศัตรูที่ไหนรึเปล่า?"
จู่ๆจงอินก็คิดถึงเรื่องกลอนบนดาดฟ้าเมื่อวาน
"มะ ไม่นี่ครับ" เซฮุนเงยหน้าขึ้นตอบหลังจากนั่งเงียบมานาน สีหน้าดูซีดเซียวมากยิ่งกว่าเดิม
"ลองคิดดูว่าขัดผลประโยชน์กับใครหรือเปล่า หรือว่ามีใครอิจฉาหรือเปล่า..."
เซฮุนเป็นเพียงแค่ผู้ช่วยแพทย์รุ่นเด็ก แทบไม่มีปากเสียงอะไร สถานะยังด้อยกว่าพวกพยาบาลด้วยซ้ำ
หรือว่าถ้ามีคนอิจฉาจริง จะด้วยเรื่องอะไรกัน
ในวันนั้นจงอินลางานช่วงบ่ายให้เซฮุนต่อเป็นลาทั้งวัน เขาขับรถพาเซฮุนกลับไปพักผ่อนที่ห้อง ให้ดื่มนมหวานอุ่นๆก่อนนอน เขารอจนเซฮุนหลับแล้วถึงได้กลับมาทำงานต่อ
หลังเลิกงาน คริสแวะมาหาที่ห้องอีกครั้ง
"สองวันนี้มีแต่เรื่องนะ"
"นั่นสิ เซฮุนดูไม่ค่อยไหวเท่าไหร่" จงอินรู้สึกเป็นห่วงจนอยากจะรีบกลับบ้านไวๆ
"วันนี้ขอตามนายกลับบ้านด้วยคนนะ"
"หืม ทำไมล่ะ"
"อยากไปเยี่ยมเซฮุน"
คริสพูดก่อนจะหันหลังกลับออกไป
"คริส"
"....."
"นายกับเซฮุนเกี่ยวข้องอะไรกันแน่"
"เปล่านี่ ฉันแค่เป็นห่วงเขา"
"อย่ามาโกหกฉัน"
"ยังมีเรื่องอีกมากที่นายไม่รู้ จงอิน ฉันคิดว่าถ้าเซฮุนพร้อมเมื่อไหร่ เขาจะบอกเอง"
คริสหันกลับมาตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง บางครั้งการไม่รับรู้อะไรเลยก็อาจจะทรมาน โดยเฉพาะเรื่องของคนที่ตัวเองชอบ
“เซฮุนน่ะ ไม่รู้หรอกว่าฉันรู้จักเขา”
“นายรู้จักเขา?”
“รู้สิ รู้จักดีเลยด้วย ฉันรู้จักเซฮุนตั้งแต่เขาเกิดมาแล้ว”
TBC